น่านจังหวัดที่มีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติสวย สงบ และไม่พลุกพล่านจนมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมาพักผ่อนแบบเงียบๆ จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก แต่เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวยขึ้นแบบทวีคูณด้วยพลังของโซเชียลมีเดียที่นักท่องเที่ยวต่างได้ลงรูปภาพสวยๆไว้จนใครๆก็อดไม่ได้ที่จะต้องตามมาเก็บภาพกันด้วยตัวเอง วันนี้เราได้รวบรวมที่เที่ยวยอดนิยมเอาใจสายเช็คอินมาฝาก ต้องบอกว่ามาถึงน่านเมื่อไหร่ ต้องห้ามพลาดสถานที่เหล่านี้เป็นอันขาด
1.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน อยู่ตรงข้ามวัดภูมินทร์ เดิมมีชื่อเรียกว่า “หอคำ” เป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครน่าน ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะวัตถุโบราณ และศิลปะต่างๆในประวัติศาสตร์พร้อมทั้งบอกเล่าชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองภาคเหนือและชาวเขาเผ่าต่าง ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “งาช้างดำ” ถือเป็นของคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่านและเป็นงาที่มีชิ้นเดียวในโลกนอนจากนี้บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมีซุ้มต้นลีลาวดียอดฮิตที่เหมือนเป็นจุดขายของพิพิธภัณฑ์ฯ หากใครที่ชอบการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจต้องบอกเลยว่าคุณแวะมาที่นี่คุณได้รูปสวยๆไปอวดเพื่อนๆบนโลกโซเชียลของคุณแน่นอน การเดินทางคลิกที่นี่
2.ซุ้มลีลาวดี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ซุ้มต้นลีลาวดีสวยๆ อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเป็นซุ้มสวยงามตามทางเดินเหมาะสำหรับการถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ยิ่งเวลาที่ต้นลีลาวดีออกดอกต้องบอกเลยว่ายังกะหนังเกาหลีกันเลยทีเดียว ใครที่เดินทางมาเที่ยวพิพิธภันฑสถานแห่งชาติน่าน ก่อนกลับอย่าลืมแวะถ่ายภาพกับซุ้มต้นลีลาวดีด้วยนะคะ การเดินทางคลิกที่นี่
3.วัดพระธาตุเขาน้อย
วัดพระธาตุเขาน้อยนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อวิวสวยอันดับต้นๆของเมืองน่านแล้ว ที่นี่ยังเป็นวัดพระธาตุที่ชาวเมืองน่านบูชา และสักการะมาเป็นเวลานาน วัดพระธาตุเขาน้อยตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองน่าน สามารถมองเห็นวิวสวยๆของเมืองน่านได้แบบจอกว้างมาก แนะนำสำหรับสายบุญ หากแวะมาน่านต้องแวะให้ได้นะคะเนื่องจากนอกจากจะได้บุญแล้วยังได้เห็นวิวสวยๆของเมืองน่านอีกด้วย การเดินทางคลิกที่นี่
4.วัดพระธาตุแช่แห้ง
“วัดพระธาตุแช่แห้ง” เพราะว่าอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตึ๊ด กิ่งอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เป็นวัดเก่าแก่ที่คาดการณ์ว่ามีมานานมากกว่า 600 ปีแล้ว เป็นวัดพระธาตุที่มีสถาปัตยกรรมล้านนาที่สวยงาม และในทุกๆ ปีจะมีการจัดงานนมัสการพระบรมธาตุแช่แห้งขึ้น ทุกวัน 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำเดือน 6 ที่จะอยู่ในช่วงกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคมของทุกปี การเดินทางคลิกที่นี่
5.ถนนคนเดินเมืองน่าน
“ถนนคนเดิน กาดข่วงเมืองน่าน” ถนนคนเดินที่ยังคงแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายล้านนา เบื้องหลังคือวัดภูมินทร์ยามค่ำคืนที่เปิดไฟสวยงามและมีพื้นที่ให้ผู้ที่มาเที่ยวซื้ออาหาร สามารถนั่งทานแบบลานขันโตกพร้อมชมการแสดงไปด้วย ”ถนนคนเดิน กาดข่วงเมืองน่าน”แห่งนี้ จัดขึ้นทุกวันศุกร์, เสาร์และอาทิตย์ การเดินทางคลิกที่นี่
6.วัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์ วัดสำคัญที่อยู่คู่เมืองน่านมานานกว่า 400 ปี ด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น มีรูปปั้นพญานาค 2 ตัวที่ทางขึ้นพระอุโบสถ และจิตรกรรมฝาผนัง ฮูปแต้ม ที่มีรูปของปู่ม่านย่าม่าน หรือที่มีฉายาว่า ภาพกระซิบรักบันลือโลก ใครที่เดินทางมาถึงวัดภูมินทร์แล้วให้เดินวนรอบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ทั้ง 4 ทิศ แล้วลองสังเกตดูว่าพระพุทธรูปองค์ไหนยิ้มให้มากที่สุดคุณก็สามารถขอพรกับองค์นั้นได้เลย การเดินทางคลิกที่นี่
7.ดอยเสมอดาว
เอาใจสายธรรมชาติ คนชอบขึ้นเขากางเต้นท์ดูดาวและคนที่รักความงามของธรรมชาติ วันนี้เราแนะนำว่าที่นี่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังเพราะ“ดอยเสมอดาว” ที่นอกจากความงามของวิวเทือกเขาแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องของหมู่ดาวบนท้องฟ้าที่คุณสามารถมองเห็นได้อย่างสวยงามชัดเจในยามค่ำคืน ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปกางเต้นท์ดูดาวกัน สำหรับดอยเสมอดาวนี้ได้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ช่วงฤดูหนาว หรือฤดูท่องเที่ยวคือช่วงเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เพราะบรรยากาศจะมาก เป็นช่วงที่เหมาะกับการมาเที่ยว และช่วงเช้าๆจะมีทะเลหมอกสวยงามให้คุณได้สดชื่นต้อนรับวันใหม่ แต่ถ้าจะไปฤดูอื่นก็ได้อีกเช่นกันเพียงแค่โอกาสเห็นทะเลหมอกจะน้อยลงเท่านั้นเอง การเดินทางคลิกที่นี่
8.เสาดินนาน้อย
“เสาดินนาน้อย” ที่เที่ยวเมืองน่านที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ที่อื่นใดเลยทีเดียว เพราะที่นี่โดดเด่นด้วยโขดดินสีส้มสวยๆมองแล้วเหมือนกับแคนยอนที่ต่างประเทศเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในด้านทิศตะวันตกของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นที่เที่ยวเมืองน่านที่เกิดขึ้นด้วยปรากฎการณ์ธรรมชาติ เกิดจากการกัดเซาะของน้ำที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายปี รวมถึงการทับถมกันของดิน จนเกิดมาเป็นเสาดินนาน้อยแห่งนี้ ลักษณะเด่นสวยงาม อีกทั้งยังมีรูปทรงที่ค่อนข้างแปลกตา นับว่าเป็นที่เที่ยวสุดอันซีนอีกแห่งของเมืองน่าน การเดินทางคลิกที่นี่
9.ล่องแก่งน้ำว้า
สำหรับล่องแก่งน้ำว้าเราก็แนะนำเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์กันสักหน่อย ที่อุทยานแห่งชาติแม่จริม จ.น่าน ที่นี่จัดว่าเป็นจุดล่องแก่งอันดับต้นๆของประเทศไทยและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเพราะที่นี่มีความยากหลายระดับ ขึ้นอยู่กับปริมาณ และ ฤดูกาลของน้ำ สำหรับใครที่ฝึกหัดและอยากล่องแก่งในระดับง่าย แนะนำให้มาช่วงฤดูร้อน แต่ถ้าใครอยากล่องแก่งแบบระดับโหด แนะนำให้มาช่วงฤดูฝน รับรองสนุกสุดมันแน่นอน การเดินทางคลิกที่นี่
10.หอศิลป์ริมน่าน
เสพงานศิลป์ที่แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะที่ หอศิลป์ริมน่าน อาณาจักรของคนรักงานศิลป์ที่ศิลปินชาวน่าน คุณวินัย ปราบริปู สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้บ้านเกิดของตัวเองเป็นเมืองศิลปะอย่างแท้จริง ที่นี่เป็นเหมือนแหล่งรวมงานศิลปะของเหล่าศิลปินไทยร่วมสมัย เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 10.00 – 17.30 น. การเดินทางคลิกที่นี่
11.วัดภูเก็ต
พกกล้องไปให้พร้อม แล้วไปเก็บภาพสวยๆ ที่วัดภูเก็ต เมืองปัว โดยตัววัดตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนา ถ้าใครได้แวะมาหน้านา หลังจากไหว้พระขอพรเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถขึ้นไปชมวิวของทุ่งนาสีทองไกลสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับวิวภูเขาสูงที่จุดชมวิว ส่วนใครที่มาช่วงเช้า พระทิตย์ขึ้นก็จะได้ฟีลอบอุ่นและหมอกบางๆ ยามเช้า ฟินยิ่งกว่า! การเดินทางคลิกที่นี่
12.ตูบนาไทยลื้อ & ตูบนากาแฟ
เดินออกมาด้านหน้าวัดภูเก็ต เราจะเห็นความน่ารักของตูบนาไทลื้อ ซึ่งเป็นที่พัก และตูบนากาแฟ ร้านกาแฟบรรยากาศสุดชิลล์สไตล์ไทลื้อที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเข้าไปลองพัก แวะชิมจิบกาแฟมาก! กับบรรยากาศจิบกาแฟริมทุ่งนา เดินเล่นบนสะพานไม้ไผ่ ให้อาหารปลา ทานเข้าแบบขันโตก แถมยังมีบริการแต่งตัวไทลื้อให้เราได้ถ่ายรูปเก๋ๆ เก็บเป็นภาพประทับใจ มองไปทางไหนก็ดีไปหมด การเดินทางคลิกที่นี่
13.ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่พัก ที่สามารถมองวิวทุ่งนากว้างไกล ในส่วนของร้านอาหารอีกด้วยเมนูส่วนใหญ่เน้นไปทางเมนูเห็ดทั้งหลาย เนื่องจากที่นี่ คือ ฟาร์มเห็ดที่ผลิตเชื้อเห็ดที่ใหญ่ทันสมัยและครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของอำเภอปัวและของจังหวัดน่าน เลยมีการนำเห็ดมาเป็นส่วนประกอบของเมนูต่างๆ ใครที่มาถึงปัวถึงแม้ไม่ได้มาพักค้างคืนก็ไม่ควรพลาดมาลิ้มลองสารพัดเมนูเห็ดและพิซซ่าแสนอร่อยเมนูขึ่นชื่อของที่นี่ การเดินทางคลิกที่นี่
14. อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
อุทยานแห่งชาติดอยภูคาเป็นอุทยานแห่งชาติที่คลอบคลุมหลายอำเภอเหมาะสำหรับคนที่อยากมานอนตั้งแคมป์ดูทะเลหมอก และสัมผัสป่าเขาที่สวยงาม และนอกเหนือจากนั้นที่อุทยานนี้ยังมีต้นชมพูภูคาที่หาดูได้ยาก เป็นพันธุ์ไม้ที่เคยสูญพันธ์ไปและเชื่อกันว่าตอนนี้ต้นชมพูภูคานี้ก็เป้นต้นเดียวที่เหลืออยู่บนโลกอีกด้วย แนะนำสำหรับคนที่อยากได้รูปสวยๆกับต้นชมพูภูคาที่ภายในหนึ่งปีจะบานเพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็คือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นั่นเอง การเดินทางคลิก
15.บ่อเกลือสินเธาว์
หากใครมาเที่ยวจังหวัดน่านต้องบอกเลยว่า “บ่อเกลือสินเธาว์” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราไม่อยากให้คุณพลาด เพราะที่นี่เป็นภูเขาแห่งเดียวในประเทศไทยที่ชาวบ้านยังมีการทำเกลือกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และคุณยังสามารถซื้อเกลือกลับไปฝากครอบครัวอีกด้วย ใครอยากเห็นการทำเกลือแบบดั้งเดิมแนะนำว่าต้องแวะมาให้ได้นะคะ การเดินทางคลิกที่นี่
16.ถนนลอยฟ้า
ไฮไลท์ของการเที่ยวเมืองน่านนอกเหนือจากสถานที่เที่ยวเมืองน่านต่างๆ แล้ว ความสวยงามของการเดินทางก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน เพราะน่านขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างมาก แนะนำหากใครอยากเห็นวิวสวยๆ หรืออยากถ่ายโดรนให้เห็นถนนลอยฟ้า ให้ขับรถไปเส้น 1256 เส้นปัว – ดอยภูคา – บ่อเกลือ และเส้น 1081 เส้นปัว – บ่อเกลือ การเดินทางคลิกที่นี่
17.อุ่นไอมาง
อุ่นไอมาง เป็นชื่อของโฮมสเตย์ที่ฮิตที่สุดแห่งหนึ่งของน่าน ตั้งอยู่ในอำเภอสะปัน ที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิด และสัมผัสกับธรรมชาติ ละทิ้งความวุ่นวายมาพักผ่อนหย่อนใจแบบสโลวไลฟ์กันที่อุ่นไอมางแห่งนี้ นอกจากความงามของวิวทิวทัศน์รอบข้างของบ้านอุ่นไอมาง ที่พักแห่งนี้ยังอยู่ติดกับลำธาร ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ชิลล์มากขึ้นไปอีก ใครกำลังหาโฮมสเตย์สวยๆ บรรยากาศดี ใกล้ชิดธรรมชาติ แนะนำให้มาพักที่อุ่นไอมางได้เลย การเดินทางคลิกที่นี่
18.ดอยสกาด น่าน
อยสกาด อำเภอปัว จังหวัดน่าน ดอยที่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยภูเขาชนเผ่าลั๊วะ มีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกเมี่ยง และมะแข่นของดีเมืองน่าน และที่สำคัญดอยแห่งนี้ยังคงมีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับมาพักผ่อนชาร์ตแบตรีเฟรซร่างกายให้หายจากความเหนื่อยล้า ดอยสกาด มีที่พักแบบโฮมสเตย์ประมาณ 3 แห่ง แต่ที่พักที่เรียกได้ว่าเปิดตัวดอยสกาดให้เป็นที่รู้จัของนักท่องเที่ยว คือ สกาดดีโฮมสเตย์ ที่พักแบบบ้านไม้เรียบง่ายที่ตั้งอยู่บนที่สูงสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาดอยภูคาได้แบบพาโนรามา จากระเบียงหน้าบ้าน นอกจากเปิดเป็นที่พักแล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม จิบชา ดริฟกาแฟ ชมวิวถ่ายภาพสวยๆ ได้ตลอดทั้งวัน การเดินทางคลิกที่นี่
19.ชายแดนห้วยโก๋น
อยู่บริเวณด่านผ่านแดนบ้านห้วยโก๋น ด่านตรงข้ามคือเมืองน้ำเงิน แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว อยู่ห่างจากเมืองน่าน 138 กิโลเมตร ตลาดจะมีทุกวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่เช้าถึงประมาณใกล้เที่ยง สินค้าที่จำหน่าย ได้แก่ ผ้าทอลายน้ำไหล ฝีมือชาวไทลื้อ สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ของป่า ลูกต๋าว (ลูกตาว) เป็นต้น อนุญาตให้ประชาชนไทย-ลาว เข้าออกด่านนี้ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ขั้นตอนการผ่านแดนไทย-สปป.ลาว
การผ่านแดน ใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว และบุตรที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี ต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา หนังสือนี้ใช้ผ่านแดนได้เพียงครั้งเดียว อนุญาตให้พำนักได้เพียงครั้งเดียวให้อยู่ในพื้นที่แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ไม่เกิน 3 วัน
เอกสารที่ต้องใช้ ค่าธรรมเนียมและแบบฟอร์ม 30 บาท สำเนาบัตรประชาชน หรือทะเบียนบ้าน และรูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป ทำหนังสือผ่านแดน ผู้มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ให้มีชื่อร่วมอยู่ในหนังสือผ่านแดนนี้ได้ด้วย โดยใช้หลักฐานสูจิบัตร ทะเบียนบ้าน รูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป ได้ที่ด่านห้วยโก๋น หรือที่ศาลากลางจังหวัดน่าน ทุกวันในเวลาราชการ
ระเบียบและค่าธรรมเนียมผ่านแดนที่ด่านไทย ค่าผ่านแดน 10 บาทต่อคน ค่ายานพาหนะ 4 ล้อ ขึ้นไป คันละ 50 บาท คู่มือจดทะเบียนหรือหนังสือมอบอำนาจกรณีรถยืม หรือรถเช่า
ระเบียบและค่าธรรมเนียมผ่านแดนที่ด่านลาว ค่าแบบฟอร์มและค่าธรรมเนียม 60 บาท ค่ายานพาหนะ 4 ล้อขึ้นไป เข้า สปป.ลาว คันละ 250 บาท และต้องทำประกันภัยรถกับ สปป.ลาว การเดินทางคลิกที่นี่
หลังจากดูแล้วว่ามีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง เพื่อนๆอย่าลืมวางแผนการเดินทางด้วยนะคะ รับรองว่า 3 วัน 2 คืน เที่ยวคุ้ม เก็บครบ สนุกแน่นอนค่ะ